รู้จัก "ป้าติ๋ม" วัย 73 ปี หญิงไทยคนแรกที่มีรูปบนซองช็อกโกแลตแบรนด์ดัง
“ป้าติ๋ม” เจ้าของสถานสงเคราะห์สัตว์ บ้านนางฟ้าของสัตว์จร หญิงไทยคนแรก ที่มีรูปบนซองช็อกโกแลต Hershey’s ในแคมเปญ สตรีที่ช่วยเหลือสังคม เปิดเผยที่ทำอยู่ทุกๆวันนี้ เพราะว่าความสงสาร และก็ เมตตาต่อสุนัข
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 เรียกว่ากลายเป็นเรื่องฮือฮา ที่ถูกพูดถึงกันมาสักพัก สำหรับนางกวิพร วินิจเถาปฐม หรือป้าติ๋ม อายุ 73 ปี เจ้าของสถานสงเคราะห์ สัตว์บ้านนางฟ้าของสัตว์จร หญิงไทยคนแรก มีภาพขึ้น บนซองช็อกโกแลต แบรนด์ระดับโลก อย่าง Hershey’s ในแคมเปญ สนับสนุนพลังสตรี
ต่อมา ผู้รายงานข่าวลงพื้นที่ ไปยังบ้านเลขที่ 342 ม.9 ตำบลบ้านป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยได้พบป้าติ๋ม และ นายอนันต์ธรณ์ วินิจเถาปฐม หรือเทป ซึ่งเป็นลูกชาย ที่กำลังเตรียมอาหาร และก็ หุงข้าวไว้ให้หมา ที่เลี้ยงไว้ในบ้านกว่า 70 ตัว แล้วก็ สุนัขจรจัด ตามท้องถนน ใน อำเภอแก่งคอย

ป้าติ๋ม เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจ ที่ได้ร่วมแคมเปญของ Hershey’s
ส่วนตัวก็ไม่คาดคิด ว่าการปฏิบัติของตนเอง จะมีคนสนใจ แล้วก็ นึกถึง ซึ่งหนแรกลูกชายของตัวเอง ได้มาบอกว่า มีช็อกโกแลต Hershey’s จะเอาแม่ไปลงในซอง ของช็อกโกแลต ตนเองก็มิได้สนใจอะไร ไม่รู้เรื่องว่า ที่เลือกไปลงที่ซองช็อกโกแลต แล้วจะเป็นอย่างไร ตนเองก็รู้สึกว่า ไม่ใช่ดารา จะไปช่วยยอดขายเขาได้ยังไง
จากนั้นเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2566 ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ลูกชายได้โทร.มาบอกว่า ซองช็อกโกแลต มีรูปแม่ลงไปแล้วนะ ก่อนจะเอามาดู ก็ยังไม่รู้สึกอะไร จนกระทั่งมีเพื่อนส่งไลน์มาให้ดูว่า “ฮือฮาหญิงไทย” แล้วมีการเอาไปลงในยูทูบด้วย ตนก็งง แต่มีความคิดว่าดีเหมือนกัน จะได้มีคนเข้าใจ และรับรู้ ในสิ่งที่ตนเองทำ นั่นคือการดูแลหมา
ตนทำไปทั้งหมด เนื่องจากการที่มีเมตตา และก็ สงสาร ถามว่าดีใจไหม ที่เฮอร์ชี่เอารูปไปลง ก็รู้สึกว่าดี ในแง่ที่ว่าเขาจะได้ช่วยในด้านการประชาสัมพันธ์ ก็เลยรู้สึกว่า
ตัวเองคงจะได้รับความช่วยเหลือ จากสังคมมากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ด้วยเหตุว่าอยู่ด้วยความลำบาก มีค่าใช้จ่ายอยู่ทุกๆวัน ทำคนเดียวก็ไม่ไหว เพราะว่า หมามันเยอะมาก
ก็จะต้องจ้างแรงงานเข้ามาช่วย ทำให้มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น เดือนละเกือบล้านบาท เพราะเรารับสุนัขมาแล้ว จะทิ้ง ก็มิได้
โชคดีที่ยังได้รับพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระราชทานค่าอาหารสุนัขทุกเดือน เดือนละ 100,000 บาท โดยได้รับพระราชทานมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 และ ผู้แทนพระองค์มาติดตามดู รวมทั้ง ให้รถนำอาหารมาส่ง ให้ทุกเดือน แต่ก็ยังไม่พอ ที่จะเลี้ยงดู สุนัข ด้วยเหตุว่าอาหารสุนัข ที่ใช้เลี้ยงต่อวัน วันละ 29 กระสอบ จากปริมาณสุนัข 1,200-1,300 ตัว และก็ แมวอีก 600 ตัว ล้วนเป็นสุนัข ที่เจ้าของทิ้งไว้ทั้งหมด
ตัวเองช่วยสุนัขมา ตั้งแต่ธ.ค. ปี 2546 เงินที่เอามาเลี้ยง ก็เป็นเงินที่ตนเองทำธุรกิจ เกี่ยวกับการทำขนส่ง คอนกรีตผสมเสร็จ มีรถโม่ปูน วิ่งรับส่งอยู่ 280 คัน แต่ว่าในตอนนี้ขายไปหมด เหลืออยู่ไม่ถึง 10 คัน รวมทั้ง ยังประกาศขายบ้าน ที่สระบุรี รวมถึง ที่ดิน ในจังหวัดชลบุรี อีกด้วย
เพื่อนำเงินมาดูแลหมา ให้มันมีชีวิตรอดไปวัน ๆ ตอนนี้ก็อยากจะหาคนมาซื้อที่ ที่บ้านของตนเอง จะได้มีเงินมาเลี้ยงหมา ผู้ที่ประสงค์ จะให้ความให้การช่วยเหลือ ดูแลสัตว์จรจัด สามารถติดต่อได้ที่เพจ บ้านนางฟ้าของสัตว์จร

ด้านนายอนันต์ธรณ์ ลูกชาย เล่าว่า ทางช็อกโกแลตเฮอร์ชี่ ได้โทร. เข้ามาหาตน
เมื่อประมาณ กันยายน หรือต.ค.ของปีที่แล้ว บอกว่าสนใจ ที่จะทำแคมเปญ โดยมีแม่ของตัวเอง มาเป็นตัวแทนสตรี ที่ช่วยเหลือสังคม โดยจะมีการนำภาพของคุณแม่ มาลงในหีบห่อของช็อกโกแลต
ซึ่งทางเฮอร์ชี่ ได้ติดต่อเข้ามาเอง โดยที่ตนไม่ได้ขอเข้าไป ในส่วนด้านค่าจ้าง ค่าโฆษณา ทางเรามิได้รับใด ๆ เลย เนื่องจากว่าการที่เขาเอาภาพ ของแม่ ไปลงในซอง ช็อกโกแลต แบรนด์ระดับโลก
มันช่วยทำให้ พวกเรามีชื่อเสียง แล้วก็ ช่วยให้คนได้รู้จัก เผื่อจะมาช่วยเหลือทำบุญ กับหมาแมวจรจัด ของแม่ ที่มีอยู่เกือบ 2,000 ตัว เหตุเพราะ ภาระหน้าที่รายจ่ายที่มหาศาล
โดยบนซองช็อกโกแลต จะมีคิวอาร์โค้ด เพื่อสแกนไปดูข้อมูล ของเพจได้ แต่ในขณะนี้ ยังไม่สามารถที่จะทำได้ คงจะต้องรอ ประมาณ ปลายเดือนก.พ. หรือเดือนมีนาคม
แต่เบื้องต้น สามารถดูข้อมูล ได้ทางเว็บไซต์ของเฮอร์ชี่ได้ ในนั้นจะมีข้อมูล ของคุณแม่ เกี่ยวกับ “บ้านนางฟ้าของสัตว์จร” และ ข้อมูลของบุคคลอื่นที่ได้รับเลือก คาดจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในวันสตรีโลก ช่วงมี.ค..